ระบบ Smart Home ของคุณปลอดภัยจริงหรือไม่?
หากคุณกำ ลังมองหาระบบที่ไม่เพียงแค่สะดวกสบาย แต่ยังปลอดภัยอย่างแท้จริง บทความนี้จะช่วยคุณเข้าใจทุกสิ่งที่จำ เป็นต้องรู้

Smart Home คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในประเทศไทย
Smart Home หรือ บ้านอัจฉริยะ คือบ้านที่ใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อและควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
และระบบต่างๆ ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย
และการประหยัดพลังงาน ระบบ Smart Home ทำ งานโดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับเครือข่าย
อินเทอร์เน็ต (Internet of Things หรือ IoT) และสามารถควบคุมได้ทั้งจากภายในบ้านและจากระยะ
ไกล ตลาด Smart Home ในประเทศไทยกำ ลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยตลาด Security ในไทยคาดว่าจะมี
มูลค่า 39.6 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 และเติบโต 12.79% ต่อปี ถึง 64.1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2029
ตามข้อมูลจาก Statista ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนไทยในการนำ เทคโนโลยี
มาใช้เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในชีวิตประจำ วัน

ระบบ Smart Home ทำงานอย่างไร?
ระบบ Smart Home ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักดังนี้:
1. ศูนย์กลางควบคุม (Hub/Controller) เช่น RISCO LightSYS+ หรือ RisControl ที่ทำ หน้าที่เป็น
สมองกลางในการเชื่อมต่อและสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ
2. เซ็นเซอร์และอุปกรณ์ตรวจจับ เช่น Motion Detector, Door/Window Sensor, Fire Detector,
Smoke Detector
3. อุปกรณ์ควบคุม เช่น สวิตช์ไฟอัจฉริยะ, ปลั๊กไฟอัจฉริยะ, Smart Thermostat สำ หรับควบคุมแอร์
4. แอปพลิเคชัน เช่น iRISCO ที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน
5. ระบบสื่อสาร ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
การทำ งานของระบบ Smart Home เริ่มต้นจากการที่เซ็นเซอร์ตรวจจับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การ
เคลื่อนไหว การเปิด-ปิดประตู หรือควันไฟ จากนั้นส่งสัญญาณไปยังศูนย์กลางควบคุม ซึ่งจะประมวล
ผลและสั่งงานอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของคุณแบบเรียลไทม์
Smart Home จำ เป็นหรือไม่?
คำ ตอบคือ ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ แต่หากคุณให้ความสำ คัญกับสิ่งเหล่านี้
Smart Home ก็จำ เป็นอย่างยิ่ง
- ความปลอดภัย: ปกป้องบ้านจากผู้บุกรุก ไฟไหม้ และภัยอื่นๆ ด้วยระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
- ความสะดวกสบาย: ควบคุมไฟ แอร์ ม่าน และอุปกรณ์อื่นๆ ได้จากที่ไหนก็ได้
- การประหยัดพลังงาน: ลดค่าไฟได้ถึง 20-30% จากการควบคุมอุปกรณ์อัตโนมัติ
- ความสบายใจ: ตรวจสอบบ้านได้ตลอดเวลา แม้คุณไม่อยู่
ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่: ทำไมต้องเลือกระบบ Smart Home ที่ปลอดภัย
ภัยคุกคามจากการแฮ็ก: ตัวเลขที่น่าตกใจ
ในปี 2025 การโจมตีอุปกรณ์ IoT และ Smart Home เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ตามรายงานวิจัยจากหลาย
แหล่งพบว่า:
- 820,000 การโจมตี IoT ต่อวัน เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อน (DeepStrike, 2025)
- 1 ใน 3 ของการละเมิดข้อมูลเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ IoT (JumpCloud, 2025)
- 9% ของ Smart Home ประสบการณ์การพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ในปี 2024-2025 (SQ
Magazine, 2025) - 50%+ ของอุปกรณ์ IoT มีช่องโหว่ร้ายแรง ที่แฮกเกอร์สามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที
การโจมตีเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากอุปกรณ์ที่ใช้โปรโตคอลแบบเปิด เช่น Z-Wave และ Zigbee ที่
ทำ งานบนคลื่นความถี่ที่สามารถถูกสแกนและโจมตีได้ง่าย นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการอัพเดท
เฟิร์มแวร์อย่างสม่ำ เสมอ หรือใช้รหัสผ่านเริ่มต้นที่อ่อนแอ ก็เป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์
ความเสี่ยงจากไฟไหม้: อันตรายที่มองไม่เห็น
นอกจากการแฮ็กแล้ว อุปกรณ์ Smart Home คุณภาพต่ำ ยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทาง
กายภาพ เช่น:
- ไฟฟ้าลัดวงจร จากอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ความร้อนสะสม ที่อาจนำ ไปสู่อัคคีภัย
- ระบบตรวจจับควันไฟที่ไม่ทำ งาน เมื่อจำ เป็นจริงๆ
ในประเทศไทย ตลาด Smoke Detector มีมูลค่า 7.84 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตที่
CAGR 10.40% ถึง 21.09 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2034 ตามรายงานจาก Expert Market Research
แสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสำ คัญของอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟที่มีคุณภาพ
ทำไม RISCO จึงปลอดภัยกว่า Z-Wave และ Zigbee
คุณสมบัติ | RISCO (Maxwell) | Z-Wave | Zigbee |
คลื่นความถี่ | 868 MHz (ปิด) | 908 MHz (เปิด) | 2.4 GHz (เปิด) |
ความปลอดภัย | สูงมาก | กลาง | กลาง |
ป้องกัน Hacking | ยอดเยี่ยม | มีความเสี่ยง | มีความเสี่ยง |
แยกระบบ Security | ใช่ | ไม่ | ไม่ |
การเข้ารหัส | AES 128-bit | AES 128-bit | AES 128-bit |
การสื่อสาร | Two-Way Wireless | One-Way | Mesh Network |
มาตรฐานสากล | ISO, CE | Z-Wave Alliance | Zigbee Alliance |
ทำ งานแม้ Wi-Fi ล่ม | ใช่ | ขึ้นอยู่กับระบบ | ขึ้นอยู่กับระบบ |

จุดเด่นของ RISCO คือการใช้คลื่นความถี่ 868 MHz แบบปิด ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับระบบรักษา
ความปลอดภัย ไม่สามารถถูกสแกนหรือโจมตีได้ง่ายเหมือนโปรโตคอลแบบเปิด นอกจากนี้ RISCO ยัง
แยกระบบรักษาความปลอดภัย (Security) ออกจากระบบ Home Automation ทำ ให้แม้ระบบ
Automation ถูกโจมตี ระบบรักษาความปลอดภัยก็ยังทำ งานได้ตามปกติ
ต้องการความปลอดภัยที่แท้จริง? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรีโทร: 02-374-4060
Smart Home Fire Detector คืออะไร? จำเป็นไหมสำหรับบ้านคุณ?
Smart Home Fire Detector หรือ เครื่องตรวจจับควันไฟอัจฉริยะ คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจ
จับควัน ความร้อน หรือเปลวไฟในบ้าน และส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของคุณแบบเรียลไทม์
แม้คุณจะไม่อยู่บ้าน ซึ่งแตกต่างจากเครื่องตรวจจับควันไฟแบบธรรมดาที่เพียงแค่ส่งเสียงเตือนในบ้าน
เท่านั้น
ทำไม Smart Home Fire Detector จึงจำ เป็น?
ตามสถิติจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าอัคคีภัยในบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่เกิดจาก
ไฟฟ้าลัดวงจร และการตรวจพบเหตุเพลิงไหม้ในช่วงแรกสามารถลดความเสียหายได้มากถึง 80%
Smart Home Fire Detector จาก RISCO มีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
- ตรวจจับควันและความร้อนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์คุณภาพสูง
- ส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ผ่านแอป iRISCO ไปยังสมาร์ทโฟนของคุณทันที
- ทำ งานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ระบบกันขโมยจะไม่ได้เปิดใช้งาน
- เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ เช่น ปิดวาล์วแก๊สอัตโนมัติ หรือเปิดไฟฉุกเฉิน
- แบตเตอรี่สำ รองในตัว ทำ งานได้แม้ไฟฟ้าดับ
Smart Home Fire Detector vs เครื่องตรวจจับควันไฟทั่วไป
คุณสมบัติ | Smart Fire Detector (RISCO) | เครื่องตรวจจับควันไฟทั่วไป |
แจ้งเตือนผ่านมือถือ | ใช่ (แม้ไม่อยู่บ้าน) | ไม่ได้ |
ทำ งาน 24 ชม. | ใช่ | ใช่ |
เชื่อมต่อระบบอื่น | ได้ (ปิดแก๊ส, เปิดไฟ) | ไม่ได้ |
แบตเตอรี่สำ รอง | มี | บางรุ่น |
ตรวจสอบสถานะระยะไกล | ได้ | ไม่ได้ |
บันทึกประวัติเหตุการณ์ | ได้ | ไม่ได้ |
ราคา | ฿฿฿ | ฿ |
คุ้มค่าหรือไม่? แน่นอน เพราะความปลอดภัยของครอบครัวและทรัพย์สินไม่มีราคา การลงทุนใน
อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟคุณภาพสูงสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้หลายล้านบาท
Smart Home Automation: ควบคุมอะไรได้บ้าง?
ระบบ Smart Home Automation จาก MAXWELL และ RISCO ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์และระบบ
ต่างๆ ในบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านแอปพลิเคชัน iRISCO เพียงแอปเดียว
อุปกรณ์ที่ควบคุมได้
1. ระบบแสงสว่าง (Lighting Control)
- เปิด-ปิดไฟทุกห้องจากที่ไหนก็ได้
- ตั้งค่า Scene สำ หรับบรรยากาศต่างๆ เช่น “โหมดดูหนัง”, “โหมดนอน”
- ตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ
2. ระบบปรับอากาศ (Climate Control)
- ควบคุมแอร์ทุกห้องผ่านมือถือ
- ตั้งค่าอุณหภูมิอัตโนมัติตามเวลา
- ประหยัดค่าไฟได้ถึง 25-30%
3. ม่านและบังแดด (Curtain & Blind Control)
- เปิด-ปิดม่านอัตโนมัติตามเวลา
- ควบคุมผ่านเสียง (Voice Control)
- ปรับมุมบังแดดตามแสงแดด
4.ประตูและล็อค (Door & Lock Control)
- ล็อค-ปลดล็อคประตูจากระยะไกล
- ดูประวัติการเข้า-ออก
- รับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนเข้า-ออก
5.ระบบมัลติมีเดีย (Multimedia Control)
- ควบคุมทีวี ลำโพง ระบบเสียง
- สร้าง Scene สำหรับความบันเทิง
Smart Home ใช้แอปอะไรดี?
คำ ตอบคือ iRISCO แอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการจาก RISCO ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก มีคุณสมบัติ
เด่นดังนี้:
- ควบคุมทุกอย่างในแอปเดียว: ระบบรักษาความปลอดภัย, กล้อง, Home Automation
- อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย: ออกแบบมาให้ทุกคนใช้ได้ ไม่ซับซ้อน
- การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์: พร้อมภาพและวิดีโอจากกล้อง
- รองรับทั้ง iOS และ Android: ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์
- ควบคุมได้หลายผู้ใช้: สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้งานได้พร้อมกัน
- ปลอดภัยสูง: เข้ารหัสข้อมูลทุกการสื่อสาร
ถ้า Wi-Fi ล่ม Smart Home ยังทำงานไหม?
นี่คือคำ ถามที่หลายคนกังวล คำ ตอบคือ ระบบ RISCO ยังทำ งานได้ เพราะ:
1. ระบบรักษาความปลอดภัยทำ งานแบบ Standalone: ไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi ในการทำ งานหลัก
2. มี Cellular Backup: สามารถส่งการแจ้งเตือนผ่านเครือข่ายมือถือได้
3. Local Control: ควบคุมผ่าน Keypad หรือ RisControl ได้โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
4. Automation ยังทำ งาน: Scenario ที่ตั้งไว้ยังทำ งานตามปกติ
อย่างไรก็ตาม การควบคุมจากระยะไกลผ่านแอป iRISCO จะต้องมีอินเทอร์เน็ต แต่ระบบรักษาความ
ปลอดภัยและ Automation ภายในบ้านยังทำ งานได้ตามปกติ
Smart Building: โซลูชันสำ หรับอาคารและธุรกิจ
Smart Building หรือ อาคารอัจฉริยะ คือการนำเทคโนโลยี IoT และระบบอัตโนมัติมาใช้ในการ
บริหารจัดการอาคารขนาดใหญ่ เช่น อาคารสำ นักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสินค้า และโรงงาน
อุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย
Smart Building ต่างจากอาคารทั่วไปอย่างไร?
ลักษณะ | Smart Building | อาคารทั่วไป |
การควบคุม | ควบคุมจากศูนย์กลาง แบบเรียลไทม์ | ควบคุมแบบแยกส่วน |
ระบบต่างๆ | เชื่อมต่อและทำ งานร่วมกัน | ทำงานแยกอิสระ |
การประหยัดพลังงาน | ลดได้ 30-50% | ไม่มีการจัดการ |
การบำ รุงรักษา | Predictive Maintenance | Reactive Maintenance |
ความปลอดภัย | บูรณาการทุกระบบ | แยกอิสระ |
การรายงาน | Dashboard แบบเรียลไทม์ | รายงานแบบ Manual |
Smart Building มีระบบอะไรบ้าง?
ระบบ Smart Building จาก MAXWELL ประกอบด้วย:
1. Building Management System (BMS)
- ควบคุมและติดตามระบบทั้งหมดจากจุดเดียว
- Dashboard แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์
- การรายงานและวิเคราะห์ข้อมูล
2. Fire Alarm & Detection System
- ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้อัตโนมัติ
- เชื่อมต่อกับระบบดับเพลิง
- แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. CCTV & Video Surveillance
- กล้อง IP ความละเอียดสูง
- AI Analytics สำ หรับตรวจจับเหตุการณ์
- Video Verification แบบเรียลไทม์
4. Access Control System
- ควบคุมการเข้า-ออกด้วย Card, Biometric
- บันทึกประวัติการเข้า-ออก
- กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงแต่ละพื้นที่
5. HVAC Control
- ควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- ปรับอุณหภูมิตามจำ นวนคนและเวลา
- ประหยัดพลังงานสูงสุด
6. Lighting Control
- ควบคุมแสงสว่างอัตโนมัติ
- ปรับตามแสงธรรมชาติ
- ตั้งเวลาเปิด-ปิดตามการใช้งาน
7.Energy Management
- ติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
- วิเคราะห์และหาจุดที่สิ้นเปลืองพลังงาน
- รายงานและคาดการณ์ค่าใช้จ่าย
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.maxwell.co.th/smart-solution/
Fire Alarm, CCTV, Access Control เชื่อมกันได้ไหม?
ได้แน่นอน และนี่คือจุดแข็งของ Smart Building จาก MAXWELL ระบบทั้งหมดสามารถเชื่อมต่อและ
ทำ งานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น:
Scenario 1: เหตุเพลิงไหม้
1. Fire Detector ตรวจพบควันไฟ
2. ระบบแจ้งเตือนทันทีผ่าน BMS และมือถือ
3. กล้อง CCTV หมุนไปยังจุดเกิดเหตุอัตโนมัติ
4. ระบบ Access Control ปลดล็อคประตูฉุกเฉินทั้งหมด
5. ระบบ HVAC หยุดทำ งานเพื่อป้องกันควันแพร่กระจาย
6. ส่งการแจ้งเตือนไปยังหน่วยดับเพลิง
Scenario 2: การบุกรุก
1. Motion Detector ตรวจพบการเคลื่อนไหวผิดปกติ
2. กล้อง CCTV เริ่มบันทึกวิดีโอทันที
3. ส่งการแจ้งเตือนพร้อมภาพไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
4. ระบบ Access Control ล็อคพื้นที่ที่สำ คัญอัตโนมัติ
5. เปิดไฟในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.maxwell.co.th/smart-fire-alarm/
Smart Building ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไร?
การประหยัดพลังงานเป็นหนึ่งในประโยชน์หลักของ Smart Building ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 30-
50% จากวิธีการต่างๆ ดังนี้:
1. HVAC Optimization: ปรับอุณหภูมิตามจำ นวนคนในแต่ละพื้นที่และเวลาใช้งาน
2. Lighting Control: เปิดไฟเฉพาะพื้นที่ที่มีคนใช้งาน และปรับความสว่างตามแสงธรรมชาติ
3. Demand Response: ลดการใช้พลังงานในช่วงที่ค่าไฟแพง
4. Predictive Maintenance: ตรวจสอบและบำ รุงรักษาอุปกรณ์ก่อนเกิดปัญหา ทำ ให้ทำ งานได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
5. Energy Monitoring: ติดตามและวิเคราะห์การใช้พลังงานเพื่อหาจุดที่สิ้นเปลืองและปรับปรุง
Case Study: อาคารสำ นักงาน 10 ชั้น ในกรุงเทพฯ
ปัญหาเดิม:
• ค่าไฟฟ้าสูงกว่า 500,000 บาทต่อเดือน
• ระบบ HVAC ทำ งานตลอดเวลาแม้ไม่มีคนใช้งาน
• ไม่มีระบบติดตามการใช้พลังงาน
โซลูชันจาก Maxwell:
• ติดตั้งระบบ BMS ควบคุม HVAC, Lighting, และ Energy Monitoring
• ติดตั้ง Motion Sensor ในทุกห้อง
• ตั้งค่า Schedule ตามเวลาทำ งาน
• ติดตั้ง Solar Panel บนดาดฟ้า
ผลลัพธ์:
• ประหยัดค่าไฟ 35% (175,000 บาทต่อเดือน)
• ROI คืนทุนภายใน 2.5 ปี
• ลดการปล่อย CO2 ได้ 40 ตันต่อปี
• เพิ่มความสบายของพนักงาน
เหมาะกับอาคารประเภทไหน?
ระบบ Smart Building จาก MAXWELL เหมาะกับอาคารทุกประเภท:
• อาคารสำ นักงาน: เพิ่มประสิทธิภาพการทำ งาน ลดต้นทุน
• โรงแรม: เพิ่มประสบการณ์แขก ประหยัดพลังงาน
• โรงพยาบาล: เพิ่มความปลอดภัย ควบคุมสภาพแวดล้อม
• ห้างสินค้า: ดึงดูดลูกค้า ลดค่าใช้จ่าย
• โรงงานอุตสาหกรรม: เพิ่มความปลอดภัย ติดตามการผลิต
• คอนโดมิเนียม: เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน ลดค่าส่วนกลาง
ทำไมต้อง MAXWELL? ประสบการณ์ 23 ปีที่คุณไว้วางใจได้
MAXWELL Security System เป็นผู้นำด้านระบบรักษาความปลอดภัยและ Smart Home Automation ในประเทศไทยมากว่า 23 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นในการให้บริการที่ดีที่สุด
รางวัลและความสำเร็จ
• Best Smart Home Security Solutions Company 2024 Thailand จาก International
Business Magazine
• Most Innovative Companies to Watch 2025 จาก Asia Business Outlook
• ตัวแทนจำหน่าย RISCO อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
• มากกว่า 10,000 โครงการที่ติดตั้งสำเร็จทั่วประเทศ
ทำ ไมต้องเลือก MAXWELL?
1. เทคโนโลยี RISCO ระดับโลก
RISCO Group เป็นผู้ผลิตระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำ จากอิสราเอล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 40
ปี และมีผลงานปกป้องทรัพย์สินมากกว่า 5 ล้านแห่ง ทั่วโลกใน 100+ ประเทศ ผลิตภัณฑ์ของ RISCO
ได้รับรางวัล:
- Technology Innovation of the Year – RisControl
- Intruder Product of the Year – LightSYS+
- PSI Training Award
และได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO และ CE
2. ความปลอดภัยที่แท้จริง
- คลื่นความถี่ 868 MHz แบบปิด: ป้องกันการแฮ็กและการรบกวนสัญญาณ
- การเข้ารหัส AES 128-bit: ปกป้องข้อมูลของคุณ
- Two-Way Wireless Communication: สื่อสารสองทางเพื่อความมั่นใจ
- แยกระบบ Security และ Automation: ความปลอดภัยไม่ถูกประนีประนอม
3. บริการครบวงจร
MAXWELL ให้บริการครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ:
1. ให้คำ ปรึกษาฟรี: วิเคราะห์ความต้องการและแนะนำ โซลูชันที่เหมาะสม
2. สำ รวจหน้างานฟรี: ตรวจสอบพื้นที่จริงและออกแบบระบบ
3. ออกแบบตามความต้องการ: ปรับแต่งให้เหมาะกับทุกโครงการ
4. ติดตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ: ช่างที่ผ่านการอบรมจาก RISCO
5. บริการหลังการขาย: ดูแลและบำ รุงรักษาระบบ
6. Hotline 24 ชั่วโมง: พร้อมให้บริการทุกเวลา (085-485-3500)
4. ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย
- Smart Home: บ้านพักอาศัย คอนโด ทาวน์เฮ้าส์
- Smart Building: อาคารสำ นักงาน โรงแรม โรงพยาบาล
- Industrial Security: โรงงาน คลังสินค้า
- Retail Security: ห้างสินค้า ร้านค้า
5. ลูกค้าที่ไว้วางใจ
MAXWELL ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น:
- หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ
- โรงแรมและรีสอร์ทระดับ 5 ดาว
- โรงพยาบาลเอกชน
- อาคารสำนักงานและห้างสินค้า
- โรงงานอุตสาหกรรม
- บ้านพักอาศัยหรู
ติด Smart Home ที่ไหนดี? เกณฑ์การเลือกผู้ให้บริการ
การเลือกผู้ให้บริการ Smart Home เป็นการตัดสินใจที่สำ คัญ เพราะจะส่งผลต่อความปลอดภัยและ
ความสะดวกสบายของคุณในระยะยาว นี่คือเกณฑ์ที่คุณควรพิจารณา:
1. ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ
- มีประสบการณ์ในธุรกิจนานแค่ไหน?
- มีผลงานและลูกค้าที่ตรวจสอบได้หรือไม่?
- มีรางวัลหรือการรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้หรือไม่?
MAXWELL: ประสบการณ์ 23 ปี, รางวัลระดับนานาชาติ, ลูกค้ามากกว่า 10,000 โครงการ
2. เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์
- ใช้เทคโนโลยีอะไร? ปลอดภัยแค่ไหน?
- เป็นตัวแทนจำ หน่ายอย่างเป็นทางการหรือไม่?
- ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานสากลหรือไม่?
MAXWELL: ตัวแทน RISCO อย่างเป็นทางการ, เทคโนโลยี 868 MHz แบบปิด, มาตรฐาน ISO และ CE
3. บริการและการสนับสนุน
- มีบริการให้คำ ปรึกษาและสำ รวจหน้างานฟรีหรือไม่?
- มีทีมช่างที่ผ่านการอบรมหรือไม่?
- มีบริการหลังการขายและการรับประกันหรือไม่?
- มี Hotline ฉุกเฉินหรือไม่?
MAXWELL: บริการครบวงจร, ช่างผ่านการอบรมจาก RISCO, Hotline 24 ชม., การรับประกันครบถ้วน
4. ความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง
- สามารถออกแบบตามความต้องการเฉพาะได้หรือไม่?
- รองรับการขยายระบบในอนาคตหรือไม่?
- เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วหรือไม่?
MAXWELL: ออกแบบตามความต้องการ, รองรับการขยายระบบ, เข้ากันได้กับ Z-Wave และอื่นๆ
5. ราคาและความคุ้มค่า
- ราคาเหมาะสมกับคุณภาพหรือไม่?
- มีแพ็กเกจให้เลือกหรือไม่?
- คุ้มค่าในระยะยาวหรือไม่?
MAXWELL: ราคาเป็นธรรม, หลายแพ็กเกจให้เลือก, ROI คืนทุนภายใน 2-3 ปี
เปรียบเทียบ: Maxwell vs ผู้ให้บริการทั่วไป
เกณฑ์ | MAXWELL | ผู้ให้บริการทั่วไป |
ประสบการณ์ | 23 ปี | แตกต่างกัน |
เทคโนโลยี | RISCO (868 MHz ปิด) | Z-Wave, Zigbee (เปิด) |
มาตรฐาน | ISO, CE | ไม่แน่นอน |
ความปลอดภัย | สูงมาก | กลาง-ต่ำ |
บริการหลังการขาย | Hotline 24 ชม. | จำกัด |
การรับประกัน | ครบถ้วน | แตกต่างกัน |
ราคา | เหมาะสมกับคุณภาพ | ถูกกว่าแต่เสี่ยง |
สรุป: การเลือก MAXWELL คือการเลือกความปลอดภัย คุณภาพ และความสบายใจในระยะยาว
เริ่มต้นทำ Smart Home ต้องใช้งบเท่าไหร่?
คำถามนี้เป็นหนึ่งในคำ ถามที่ถูกถามบ่อยที่สุด คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับขนาดบ้านและความต้องการของ
คุณ แต่เพื่อให้คุณมีภาพที่ชัดเจนขึ้น นี่คือตัวอย่างแพ็กเกจและราคาโดยประมาณ:
แพ็กเกจ Smart Home สำหรับบ้านพักอาศัย
1. แพ็กเกจเริ่มต้น (Starter Package)
เหมาะสำ หรับ: คอนโด, ทาวน์เฮ้าส์ขนาดเล็ก (1-2 ห้องนอน)
อุปกรณ์ที่รวม:
- RISCO LightSYS Air (Alarm Panel)
- Motion Detector 2 ตัว
- Door/Window Sensor 4 ตัว
- Smoke Detector 1 ตัว
- Keypad 1 ตัว
- Smart Plug 2 ตัว
- แอป iRISCO
ราคาโดยประมาณ: 45,000 – 65,000 บาท (รวมติดตั้ง)
ประโยชน์: - ระบบรักษาความปลอดภัยพื้นฐาน
- ตรวจจับควันไฟ
- ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านมือถือ
2. แพ็กเกจมาตรฐาน (Standard Package)
เหมาะสำ หรับ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น (3-4 ห้องนอน)
อุปกรณ์ที่รวม:
- RISCO LightSYS+ (Alarm Panel)
- Motion Detector 4 ตัว
- Door/Window Sensor 8 ตัว
- Smoke Detector 3 ตัว
- Glass Break Detector 2 ตัว
- Keypad 2 ตัว
- VUpoint IP Camera 2 ตัว
- Smart Plug 4 ตัว
- Smart Thermostat 2 ตัว (ควบคุมแอร์)
- แอป iRISCO
ราคาโดยประมาณ: 120,000 – 180,000 บาท (รวมติดตั้ง)
ประโยชน์: - ระบบรักษาความปลอดภัยครบถ้วน
- กล้องวงจรปิดพร้อม Video Verification
- ควบคุมแอร์ประหยัดค่าไฟ
- ตรวจจับควันไฟทุกชั้น
3. แพ็กเกจพรีเมียม (Premium Package)
เหมาะสำ หรับ: บ้านเดี่ยวหรู 2-3 ชั้น (4+ ห้องนอน)
อุปกรณ์ที่รวม:
- RISCO LightSYS+ (Alarm Panel)
- RisControl 8″ Touchscreen
- Motion Detector 6 ตัว
- Door/Window Sensor 12 ตัว
- Smoke Detector 5 ตัว
- Glass Break Detector 4 ตัว
- Keypad 3 ตัว
- VUpoint IP Camera 6 ตัว
- Video Doorbell 1 ตัว
- Smart Door Lock 2 ตัว
- Smart Lighting Control (ทุกห้อง)
- Smart Thermostat 4 ตัว
- Smart Curtain Control 4 ตัว
- แอป iRISCO
ราคาโดยประมาณ: 350,000 – 550,000 บาท (รวมติดตั้ง)
ประโยชน์: - ระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด
- Home Automation ครบครัน
- ควบคุมทุกอย่างผ่าน Touchscreen และมือถือ
- ประหยัดค่าไฟได้ 25-30%
- เพิ่มมูลค่าบ้าน
2. แพ็กเกจอาคารขนาดกลาง
เหมาะสำ หรับ: อาคารสำ นักงาน โรงแรม 5-10 ชั้น
ระบบที่รวม:
- Building Management System (BMS)
- Fire Alarm & Detection System (ทุกชั้น)
- CCTV 30-50 ตัว พร้อม AI Analytics
- Access Control 10-20 จุด
- Lighting Control (ทั้งอาคาร)
- HVAC Control (ทุกชั้น)
- Energy Management System
- Elevator Integration
ราคาโดยประมาณ: 2,000,000 – 5,000,000 บาท
ROI: คืนทุนภายใน 2.5-4 ปี จากการประหยัดพลังงาน 30-40%
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา
1. ขนาดพื้นที่: พื้นที่ใหญ่ต้องใช้อุปกรณ์มากขึ้น
2. จำนวนอุปกรณ์: ยิ่งมีเซ็นเซอร์และอุปกรณ์มาก ราคายิ่งสูง
3. ระดับของเทคโนโลยี: ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมมีราคาสูงกว่า
4. ความซับซ้อนของการติดตั้ง: บ้านหรือ อาคารที่มีโครงสร้างซับซ้อนอาจมีค่าติดตั้งสูงขึ้น
5. ฟีเจอร์เพิ่มเติม: เช่น Voice Control, AI Analytics, Video Analytics
คุ้มค่าหรือไม่?
แน่นอน เพราะ:
1. ประหยัดค่าไฟ: 20-30% ต่อปี (คืนทุนบางส่วนจากค่าไฟที่ประหยัดได้)
2. ป้องกันความเสียหาย: ระบบตรวจจับควันไฟสามารถป้องกันความเสียหายหลายล้านบาท
3. เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน: บ้านหรืออาคารที่มี Smart Home/Building System มีมูลค่าสูงกว่า 10-15%
4. ความสบายใจ: ไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่มีค่ามาก
5. ความสะดวกสบาย: ประหยัดเวลาและพลังงานในชีวิตประจำ วัน
ต้องการใบเสนอราคาที่แม่นยำ ? นัดสำรวจหน้างานฟรี โทร: 02-374-4060
ระบบ Smart Home ต้องดูแลยังไง?
ระบบ Smart Home จาก RISCO ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและบำ รุงรักษาน้อย แต่เพื่อให้ระบบทำ งาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือสิ่งที่คุณควรทำ :
การดูแลรักษาเบื้องต้น
1. ทำ ความสะอาดเซ็นเซอร์: เช็ดฝุ่นออกจาก Motion Detector และ Smoke Detector ทุก 3-6 เดือน
2. ตรวจสอบแบตเตอรี่: เปลี่ยนแบตเตอรี่เซ็นเซอร์ตามที่ระบบแจ้งเตือน (โดยปกติ 3-5 ปี)
3. อัพเดทเฟิร์มแวร์: อัพเดทเฟิร์มแวร์ของระบบเมื่อมีเวอร์ชันใหม่
4. ทดสอบระบบ: ทดสอบระบบกันขโมยและ Fire Detector ทุก 3 เดือน
บริการบำ รุงรักษาจาก MAXWELL
MAXWELL มีบริการบำรุงรักษาระบบเพื่อให้คุณมั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่างสมบูรณ์:
1. การตรวจสอบประจำ ปี: ตรวจสอบระบบทั้งหมด ทดสอบการทำงาน ปรับแต่งให้เหมาะสม
2. การอัพเดทเฟิร์มแวร์: อัพเดทเฟิร์มแวร์ให้ทันสมัยเสมอ
3. การซ่อมแซม: ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุด
4. การให้คำ ปรึกษา: แนะนำ การใช้งานและฟีเจอร์ใหม่ๆ
สนใจบริการบำรุงรักษา โทร: 02-374-4060 หรือ Hotline 24 ชม. 085-485-3500
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: Smart Home คืออะไร?
A: Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ คือบ้านที่ใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อและควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
และระบบต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการประหยัดพลังงาน
Q2: Smart Home Fire Detector คืออะไร? จำ เป็นไหมสำ หรับบ้านคุณ?
A: Smart Home Fire Detector คืออุปกรณ์ตรวจจับควันและความร้อนอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับระบบ
Smart Home สามารถส่งการแจ้งเตือนมายังมือถือของคุณได้ทันทีแม้คุณไม่อยู่บ้าน จำ เป็นอย่างยิ่ง
เพราะช่วยป้องกันเหตุอัคคีภัยและลดความเสียหายได้มากถึง 80%
Q3: ระบบ Smart Home ทำ งานยังไง?
A: ระบบ Smart Home ทำ งานโดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ กล้อง สวิตช์ไฟ เข้ากับ
ศูนย์กลางควบคุม (Hub) ผ่านเครือข่ายไร้สาย จากนั้นคุณสามารถควบคุมและตรวจสอบทุกอย่างผ่าน
แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ทั้งจากภายในบ้านและจากระยะไกล
Q4: Smart Home จำ เป็นไหม?
A: ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ แต่หากคุณให้ความสำ คัญกับความปลอดภัย ความสะดวกสบาย
และการประหยัดพลังงาน Smart Home ก็จำ เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์
และอัคคีภัยเพิ่มมากขึ้น
Q5: Smart Home ควบคุมอะไรได้บ้าง?
A: Smart Home สามารถควบคุมได้หลากหลาย เช่น ระบบแสงสว่าง แอร์ ม่าน ประตู ล็อค กล้อง
วงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และอื่นๆ ทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชันเดียว
Q6: Smart Home ใช้แอปอะไรดี?
A: แนะนำ แอป iRISCO จาก RISCO ซึ่งเป็นแอปที่ครบครันที่สุด สามารถควบคุมระบบรักษาความ
ปลอดภัย กล้อง และ Home Automation ได้ในแอปเดียว ใช้งานง่าย ปลอดภัยสูง และรองรับทั้ง iOS
และ Android
Q7: ติด Smart Home ที่ไหนดี?
A: ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ ใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัย มีมาตรฐานสากล และให้บริการ
หลังการขายที่ดี MAXWELL Security System เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมด้วยประสบการณ์ 23 ปี เทคโนโลยี
RISCO ระดับโลก และบริการครบวงจร
Q8: เริ่มต้นทำ Smart Home ต้องใช้งบเท่าไหร่?
A: ขึ้นอยู่กับขนาดบ้านและความต้องการ แพ็กเกจเริ่มต้นสำ หรับคอนโดเริ่มที่ประมาณ 45,000-
65,000 บาท สำ หรับบ้านเดี่ยว 2 ชั้นประมาณ 120,000-180,000 บาท และแพ็กเกจพรีเมียมสำ หรับ
บ้านหรูประมาณ 350,000-550,000 บาท (รวมติดตั้ง)
Q9: ระบบ Smart Home ต้องดูแลยังไง?
A: ดูแลง่ายมาก เพียงทำ ความสะอาดเซ็นเซอร์ทุก 3-6 เดือน เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามที่ระบบแจ้งเตือน
และอัพเดทเฟิร์มแวร์เป็นประจำ MAXWELL ยังมีบริการตรวจสอบประจำ ปีเพื่อให้ระบบทำ งานได้อย่าง
สมบูรณ์
Q10: ถ้า Wi-Fi ล่ม Smart Home ยังทำงานไหม?
A: ระบบ RISCO ยังทำ งานได้ เพราะระบบรักษาความปลอดภัยทำ งานแบบ Standalone ไม่ต้องพึ่ง Wi-
Fi ในการทำ งานหลัก และมี Cellular Backup สำ หรับส่งการแจ้งเตือน การควบคุมจากระยะไกลผ่าน
แอปจะต้องมีอินเทอร์เน็ต แต่ระบบภายในบ้านยังทำงานตามปกติ
Q11: Smart Building คืออะไร?
A: Smart Building หรืออาคารอัจฉริยะ คือการนำ เทคโนโลยี IoT และระบบอัตโนมัติมาใช้ในการ
บริหารจัดการอาคารขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย
Q12: อาคารอัจฉริยะต่างจากอาคารทั่วไปอย่างไร?
A: อาคารอัจฉริยะมีระบบต่างๆ ที่เชื่อมต่อและทำ งานร่วมกันอย่างอัตโนมัติ สามารถควบคุมจาก
ศูนย์กลาง มี Dashboard แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสามารถประหยัดพลังงานได้ 30-50% ใน
ขณะที่อาคารทั่วไประบบต่างๆ ทำ งานแยกอิสระและต้องควบคุมด้วยตนเอง
Q13: Smart Building มีระบบอะไรบ้าง?
A: ประกอบด้วย Building Management System (BMS), Fire Alarm & Detection, CCTV & Video
Surveillance, Access Control, HVAC Control, Lighting Control, และ Energy Management
System ซึ่งทั้งหมดเชื่อมต่อและทำ งานร่วมกันได้
Q14: Fire Alarm, CCTV, Access Control เชื่อมกันได้ไหม?
A: ได้แน่นอน ระบบ Smart Building จาก สามารถเชื่อมต่อระบบทั้งหมดให้ทำงานร่วมกัน
ได้ เช่น เมื่อ Fire Alarm ตรวจพบควันไฟ กล้อง CCTV จะหมุนไปยังจุดเกิดเหตุอัตโนมัติ และระบบ
Access Control จะปลดล็อคประตูฉุกเฉินทั้งหมด
Q15: Smart Building ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไร?
A: ผ่านการควบคุม HVAC และ Lighting อัตโนมัติตามการใช้งานจริง การใช้ Demand Response ลด
การใช้พลังงานในช่วงที่ค่าไฟแพง การทำ Predictive Maintenance และการติดตามวิเคราะห์การใช้
พลังงานเพื่อหาจุดที่สิ้นเปลือง สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 30-50%
Q16: ติดตั้งระบบ Smart Building ต้องใช้งบเท่าไหร่?
A: สำ หรับสำ นักงานขนาดเล็ก (100-300 ตร.ม.) ประมาณ 300,000-500,000 บาท สำหรับอาคาร
ขนาดกลาง (5-10 ชั้น) ประมาณ 2-5 ล้านบาท โดย ROI สามารถคืนทุนได้ภายใน 2.5-4 ปีจากการ
ประหยัดพลังงาน
Q17: Smart Building เหมาะกับอาคารประเภทไหน?
A: เหมาะกับอาคารทุกประเภท ทั้งอาคารสำ นักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสินค้า โรงงาน
อุตสาหกรรม และคอนโดมิเนียม โดยสามารถปรับแต่งระบบให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละ
ประเภทได้
Q18: MAXWELL มีบริการอะไรบ้าง?
A: MAXWELL ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำ ปรึกษาฟรี สำรวจหน้างานฟรี ออกแบบตามความ
ต้องการ ติดตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ บริการหลังการขาย และ Hotline 24 ชั่วโมง (085-485-3500)
ปกป้องบ้านและครอบครัวของคุณด้วยระบบที่ปลอดภัยจริง
ในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นถึง 820,000 ครั้งต่อวัน และ 50%+ ของอุปกรณ์ IoT มีช่องโหว่
ร้ายแรง การเลือกระบบ Smart Home ที่ปลอดภัยจึงไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่เป็นเรื่องของ
ความปลอดภัยของครอบครัวและทรัพย์สินของคุณ
MAXWELL Security System พร้อมด้วยเทคโนโลยี RISCO ระดับโลก มอบโซลูชัน Smart Home
และ Smart Building ที่:
- ปลอดภัยจริง ด้วยคลื่นความถี่ 868 MHz แบบปิด ป้องกัน Hacking 100%
- มาตรฐานโลก ได้รับการรับรอง ISO และ CE
- ครบครัน ทั้งระบบรักษาความปลอดภัย Fire Detection และ Home Automation
- ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟได้ 25-30%
- บริการเยี่ยม ประสบการณ์ 23 ปี พร้อม Hotline 24 ชม.
- คุ้มค่า ROI คืนทุนภายใน 2-3 ปี
อย่ารอให้สายเกินไป ปกป้องสิ่งที่คุณรักด้วยระบบที่ปลอดภัยจริงตั้งแต่วันนี้
ติดต่อ Maxwell Security System วันนี้
• ออฟฟิศ: 02-374-4060
• Hotline 24 ชั่วโมง: 085-485-3500
• Line ID: @maxwellsecurity
• Email: info@maxwell.co.th
• Website: https://www.maxwell.co.th/home_automation/
สำนักงานและโชว์รูม
MAXWELL Security System Co., Ltd.
เวลาทำ การ: จันทร์-ศุกร์ 09:00-18:00 น. | เสาร์ 09:00-16:00 น.
พื้นที่ให้บริการ
• กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
• ภาคกลาง
• ภาคตะวันออก (พัทยา, ชลบุรี, ระยอง)
• ต่างจังหวัดทั่วประเทศ (ติดต่อสอบถาม)
โปรโมชันพิเศษ
นัดสำรวจหน้างานฟรี วันนี้ รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 10% สำ หรับลูกค้าที่ติดต่อภายในเดือนนี้! โทร 02-374-4060