วิวัฒนาการของกันขโมยจากอดีตถึงปัจจุบัน พัฒนาไปไกลขนาดไหนแล้ว

คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ สัญญาณกันขโมย ตัวช่วยสำหรับการป้องกันและแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายภายในสถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้าน สำนักงาน โรงงาน ฯลฯ ซึ่งเท่าที่เรารู้ ๆ กันก็คือ สัญญาณกันขโมยจะทำงานด้วยการส่งเสียงร้องเมื่อมีการบุกรุกเกิดขึ้น แต่บอกเลยว่าเดี๋ยวนี้สัญญาณกันขโมยทำได้มากกว่านั้น วันนี้ MR.MAXWELL จะพาทุกคนไปดูวิวัฒนาการของกันขโมยจากอดีตถึงปัจจุบัน ว่าพัฒนาไปไกลขนาดไหนแล้ว…

สัญญาณกันขโมยในยุคแรก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นระบบแบบเดินสาย และอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานในระบบอย่างตู้ควบคุม อุปกรณ์ตรวจจับการเปิด/ ปิดประตูและหน้าต่าง หรืออุปกรณ์แจ้งเตือน มักจะมีขนาดใหญ่ ดูไม่ค่อยสบายตาเมื่อติดตั้ง รวมไปถึงระบบฮาร์ดแวร์ภายในของอุปกรณ์ที่อาจจะยังไม่เสถียรมากนัก ส่งผลให้ระบบเซ็นเซอร์มักตรวจจับและแจ้งเตือนแบบerrorบ่อย

แต่ระบบสัญญาณกันขโมยในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาฮาร์ดแวร์อย่างต่อเนื่อง ให้สามารถติดตั้งและใช้งานแบบไร้สายได้ รวมไปถึงมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยประมวลผล ทำให้สามารถประเมินและตรวจจับความผิดปกติได้แม่นยำมากกว่าเดิม

นอกจากนี้ สัญญาณกันขโมยในปัจจุบันยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้มากขึ้น เช่น อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว, เครื่องตรวจจับควัน/ ความร้อน และ Twin Beams ซึ่งเป็นแสงเลเซอร์ที่มองไม่เห็น เมื่อมีคนเดินตัดผ่านลำแสงทั้ง 2 เส้น ก็จะเกิดการแจ้งเตือนขึ้น ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการเกิดFalse Alarm ได้ดี

สำหรับการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุ ก็ไม่ได้แจ้งแค่เสียงไซเรนอีกต่อไป แต่ยังสามารถแจ้งเตือนผ่าน Application, หมายเลขโทรศัพท์ 16 หมายเลข, Email, และ SMS พร้อมระบุโซนที่ถูกบุกรุก เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือได้อย่างทันเวลาอีกด้วย

ถือว่าพัฒนามาไกลมากสำหรับวิวัฒนาการของสัญญาณกันขโมย ซึ่งในปัจจุบันการตรวจจับการบุกรุก หรือการแจ้งเตือนเพื่อขอความช่วยเหลือของสัญญาณกันขโมย สามารถทำได้แม่นยำขึ้นและผิดพลาดน้อยลง แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีของระบบสัญญาณกันขโมยคงจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน รอดูกันต่อไปว่าสัญญาณกันขโมยจะทำอะไรต่อไปได้อีก…

หากสนใจติดตั้งหรือปรึกษาเรื่องสัญญาณกันขโมย สามารถติดต่อ MR.MAXWELL ได้ทางช่องแชททางเว็บไซต์,
email: support@maxwell.co.th
หรือโทรสายด่วน Hotline 24 ชั่วโมง: 085-485-3501